#define THRESHOLD 2045
const int LDR = 16;
const int RELAY = 15;
void setup() {
Serial.begin(115200);
pinMode(LDR, INPUT_PULLUP);
pinMode(RELAY, OUTPUT);
digitalWrite(RELAY, LOW);
}
void loop() {
int light = analogRead(LDR);
Serial.print("Value: ");
Serial.println(light);
if(light <= 2045) {
digitalWrite(RELAY, HIGH);
Serial.print("Light!");
} else {
digitalWrite(RELAY, LOW);
Serial.print("Dark!");
}
delay(1000);
}
// รีเลย์คือ? อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในวงจรควบคุมอัตโนมัติ ทําหน้าที่เปรียบเสมือนสวิตช์ไฟ ที่ใช้แรงดันไฟฟ้าในการเปิดและปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเพื่อควบคุมวงจรต่างๆ
// หลักการทํางาน รีเลย์ทํางานโดยการป้อนกระแสไฟฟ้าให้กับขดลวด เพื่อเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้าเป็นพลังงานแม่เหล็ก สําหรับดูดหน้าสัมผัส(contact)ให้เปลี่ยนทิศทางการไหลของไฟฟ้าเพื่อควบคุมการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆคล้ายกับสวิตซ์
// การพิจารณาเลือกใช้งานรีเลย์
// • แรงดันของขดลวดไฟฟ้า (coil rated voltage) - แรงดันไฟฟ้าที่จ่ายให้แก่ขดลวดให้เกิดการ
// เหนี่ยวนําเพื่อเปลี่ยนตําแหน่งของหน้าสัมผัส (contact) จะต้องพิจารณาชนิดของแรงดันด้วย
// ว่าเป็นแบบ AC หรือ DC เช่น 24VDC หมายความว่าต้องใช้แรงดันที่ 24VDC เท่านั้น หาก
// มากกว่านั้นขนลวดอาจขาดได้ หรือหากต่ํากว่านั้นมาก รีเลย์(relay) ก็จะไม่ทํางาน
// • กระแสไฟ - กระแสไฟฟ้าสูงสุดที่หน้าสัมผัส (contact) สามารถทนได้ เช่น 10A 220VAC
// หมายถึง หน้าสัมผัส (contact) ของรีเลย์จะสามารถทนกระแสได้สูงสุดที่ 10A โดยใช้แรง
// ดันไฟ 220VAC เป็นต้น
// • จํานวนและชนิดของหน้าสัมผัส - เมื่อต้องการควบคุมอุปกรณ์หลายอย่าง แนะนําให้ใช้หน้า
// สัมผัส 1 ตําแหน่ง ต่ออุปกรณ์ 1 ตัว เท่านั้น เนื่องจากหากต่อพ่วงมากเกินไปอาจทําให้หน้า
// สัมผัสรับภาระมากเกินไป จะทําให้รีเลย์หรืออุปกรณ์ที่ต่อพ่วงเสียหายได้
// • รูปแบบของขั้วที่ใช้ต่อกับอุปกรณ์
// //ใช้สูตร R = E/I
// R = ค่าความต้านทาน (โอห์ม)
// E = ค่าแรงดันไฟฟ้าจากแหล่งจ่าย - ค่าแรงดันไฟฟ้าที่อุปกรณ์ต้องการ (โวลต์)
// I = ค่ากระแสไฟฟ้าที่อุปกรณ์ต้องใช้ในขณะทํางาน (แอมป์)